Posted by จังหวัดอุตรดิตถ์ เป็นจังหวัดหนึ่งในภาคเหนือของประเทศไทย เชื่อว่า เป็นเมืองลับแลเลยก็ว่าได้ เป็นเมืองท่องเที่ยวที่กลายเป็นจุดหมายปลายทางของหลายคน โดยเฉพาะผู้ที่รักและชื่นชอบธรรมชาติที่แสนบริสุทธิ์ ความงดงามของวัฒนธรรมและวิถีชีวิตสไตล์ล้านนาโบราณ เต็มไปด้วยที่เที่ยวชมธรรมชาติ ที่เที่ยวแนวประวัติศาสตร์ วัดสวยๆ และอื่นๆ ความเงียบสงบของเมือง ซึ่งทุกท่านสามารถมาเที่ยวได้ตลอดทั้งปี เพราะที่นี่อากาศดีตลอดทั้งปี บอกเลยว่ามาที่นี่ที่เดียว มีครบทุกสไตล์ รับรองเลยว่าจะต้องตกหลุมรัก อุตรดิตถ์ แน่นอน ขอแนะนำ 7 สถานที่ท่องเที่ยวเมืองลับแล แบบไม่ลับ
ซุ้มประตูเมืองและพิพิธภัณฑ์เมืองลับแล
ไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือ เมืองลับแล เมืองนี้ห้ามพูดโกหก ตามตำนานนิทานพื้นบ้านเล่ากันว่าเป็นเมืองของคนดี มีความซื่อสัตย์สุจริต โกหกคำเดียวไม่ได้ ลูกเขยเห็นลูกร้องไห้ กล่อมแบบไหนก็ไม่หยุด หลุดปากหลอกลูกว่า แม่มาแล้วเท่านั้นแหละ ก็ต้องออกจากเมือง เมื่อเข้าถึงอำเภอลับแลจะมองเห็น ซุ้มประตูเมือง ซึ่งหมายถึงว่าได้เดินทางเข้าสู่เมืองลับแลอย่างเป็นทางการ ซุ้มประตูเมืองถือว่า เป็นแลนด์มาร์ค ที่ทุกคนต้องแวะ ข้างซุ้มประตู มีประติมากรรมแม่ม่ายอีกหนึ่งสัญลักษณ์ของเมืองลับแล เป็นรูปปั้นหญิงสาวยืนอุ้มลูกน้อยสีหน้าเศร้าสร้อย ข้างมีสามีนั่งคอตกในมือถือถุงย่ามใส่ขมิ้นเตรียมเดินทางจากเมืองลับแล ติดกับซุ้มประตูเมือง คือ พิพิธภัณฑ์เมืองลับแล เป็นสถานที่รวบรวมเรื่องราวประวัติของเมือง วิถีชีวิตและขนบธรรมเนียมการใช้ชีวิตของผู้คนในเมืองลับแล โดยจำลองผ่านเรือนในแต่ละหลัง
อุทยานแห่งชาติภูสอยดาว
ที่นี่เป็นที่เที่ยวสุดฮิตในอุตรดิตถ์ที่หลายๆท่านก็ต้องมา โดยเฉพาะสายลุย สายเดินป่า คนรักธรรมชาติสวยๆ บอกเลยว่าพลาดไม่ได้ บริเวณภายในอุทยานแห่งชาติภูสอยดาว เป็นพื้นที่ที่มีสภาพป่าค่อนข้างสมบูรณ์ปกคลุมไปด้วยป่าธรรมชาติที่สวยงาม เป็นแหล่งต้นน้ำลำธาร จุดเด่นของที่นี่ก็คือ ลานสนสามใบภูสอยดาว ซึ่งจะเป็นลานที่มีต้นสนขึ้นอยู่เต็มลาน ไฮไลท์ก็คือ ดอกหงอนนาค มีชื่อเรียกอีกอย่างว่า หญ้าหงอนเงือก หรือน้ำค้างกลางเที่ยง อีกทั้งดอกหงอนนาคยังมีทั้งสีม่วงอ่อนหรือม่วงน้ำเงิน สีขาว และสีชมพู ซึ่งค่อนข้างหายาก ยามเช้าดอกหงอนนาคจะหุบดอก และจะบานเมื่อมีแสงแดด บริเวณเกสรของดอกมักมีหยดน้ำติดอยู่ เป็นที่มาของชื่อน้ำค้างกลางเที่ยง ซึ่งจะมีในช่วงหน้าฝน ประมาณเดือนสิงหาคม-กันยายน จุดนี้ก็จะกลายเป็นทุ่งดอกไม้สีม่วงสวยงาม เหมาะกับการมาถ่ายรูปสวยๆ ท่ามกลางทุ่งดอกไม้เลย และที่นี่ยังเปิดให้บริการทุกวัน
เขื่อนสิริกิติ์
เขื่อนสิริกิติ์ หรือ ที่เรียกกันในชื่อท้องถิ่นว่า เขื่อนท่าปลา เป็นเขื่อนดินที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ก่อสร้างขึ้นตามโครงการพัฒนาลุ่มน้ำน่าน อยู่ในความดูแลของกรมชลประทาน กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ภายหลังได้ติดตั้งโรงไฟฟ้าพลังงานได้มอบให้การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทยเป็นผู้รับผิดชอบดูแลต่อไป เป็นสถานที่เที่ยวอีกแห่งหนึ่งที่สำคัญของจังหวัดอุตรดิตถ์ ที่นี่มีพื้นที่กว้างขวาง มีจุดชมวิวหลากหลาย สามารถขึ้นมาชมบรรยากาศ แม่น้ำ 2 สี หรือเรียกว่าแม่น้ำปาด สะพานเฉลิมพระเกียรติพระบรมราชินีนาถ เป็นสะพานแขวนด้วยสายเคเบิล สีฟ้าเหลือง โดดเด่นสวยงาม ทอดยาวผ่านกลางลำน้ำที่ไหลมาจากเขื่อนสิริกิติ์ สามารถเดินชมทัศนียภาพชมวิวของแม่น้ำน่านและภูเขาโดยรอบได้อย่างสวยงาม บริเวณสันเขื่อนก็ถือว่าเป็นอีกจุดชมวิวที่สามารถชมวิวทิวทัศน์ได้ มองเห็นป้าย แวะถ่ายรูปกลับเป็นที่ระลึกได้และที่นี่ยังเปิดให้เข้าชมทุกวัน
อุทยานแห่งชาติลำน้ำน่าน
ที่นี่เป็นแหล่งต้นน้ำลำธารของอ่างเก็บน้ำเหนือเขื่อนสิริกิติ์ เป็นอุทยานที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ 2 จังหวัด คือ ในอำเภอน้ำปาด อำเภอท่าปลา อำเภอบ้านโคกจ.อุตรดิตถ์ และอำเภอเมือง จังหวัดแพร่ ไฮไลท์ของที่นี่ก็คือ จุดชมวิว ทะเลสาบสุริยันต์จันทรา เมื่อมองลงไปจะได้เห็นวิวแล้วยังเห็นแพของชาวบ้านได้เห็นวิถีของชาวบ้านที่อยู่บนแพอีกด้วย ส่วนใหญ่ที่นี่จะประกอบอาชีพประมง เนื่องจากบริเวณนี้มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำอาชีพประมง ที่มีลักษณะเป็นอ่างเก็บน้ำที่รายล้อมด้วยทิวเขา ช่วงเย็นๆ จะได้เห็นวิวพระอาทิตย์ตกสวยงามมาก เหมาะสำหรับท่านใดที่เป้นสายลุย ที่ชอบนอนกางเต็นท์ เพราะบริเวณมีพื้นที่ให้กางเต็นท์อีกด้วย นับว่าเป็นอีกหนึ่งสถานที่ที่น่าสนใจของจังหวัดอุตรดิตถ์เลยก็ว่าได้ ค่าเข้าอุทยานแห่งชาติลำนำน่าน ผู้ใหญ่ คนละ 20 บาท เด็ก คนละ 10 บาท ชาวต่างประเทศ ผู้ใหญ่ คนละ 100 บาท เด็ก คนละ 50 บาท ซึ่งราคาไม่แพง รับรองว่าคุ้มค่ามาก
ภูแลลาว
ตั้งอยู่ที่ ตำบลบ่อเบี้ย อำเภอบ้านโคก จังหวัดอุตรดิตถ์ อยู่ในเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าแม่จริม เดิมแต่ก่อนเป็นจุดสกัด ป้องกันการตัดไม้ทำลายป่าแต่ต่อมา ได้ปรับปรุงให้เป็นจุดชมวิวสองแผ่นดิน ที่สามารถมองลงไปเห็นบ้านเรือนของพี่น้องชาวลาวได้ ฤดูที่เหมาะแก่การไปที่เที่ยวอุตรดิตถ์แห่งนี้คือหน้าหนาว เหมาะสำหรับใครที่ชอบธรรมชาติก็สามารถไปชมทะเลหมอกขาวละมุนบนยอดเขาที่ภูแลลาว นอนกางเต็นท์ชมดาวยามค่ำคืน สามารถนอนดูดาวได้ และตอนเช้าตื่นมาชมทะเลหมอก ส่วนใหญ่นักท่องเที่ยวนิยมมากางเต็นท์นอน รับอากาศเย็นแบบเลขตัวเดียว หิวก็มีแคมป์ไฟปิ้งย่างส่วนตัว ส่วนเรื่องอำนวยความสะดวกก็มีปลอดภัย เพราะเจ้าหน้าที่ดูแลตลอด 24 ชั่วโมง
การเดินทาง
ทางรถยนต์ : จังหวัดอุตรดิตถ์ห่างจากกรุงเทพฯ 491 กิโลเมตร สามารถเดินทางไปได้ 2 เส้นทาง คือ
- จากกรุงเทพมหานคร ใช้ทางหลวงหมายเลข 1 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 32 ผ่านจังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง สิงห์บุรี ชัยนาท และเข้าจังหวัดนครสวรรค์ จากนั้นใช้เส้นทาง 117 เข้าจังหวัดพิษณุโลก และทางหลวงหมายเลข 11 จนถึงจังหวัดอุตรดิตถ์
- ใช้เส้นทางกรุงเทพมหานคร สิงห์บุรี แล้วขับเลยไปถึงอำเภออินทร์บุรี ตามทางหลวงหมายเลข 311 แล้วแยกเข้าทางหลวงหมายเลข 11 (สายอินทร์บุรี-ตากฟ้า) จนถึงทางหลวงหมายเลข 12 สายพิษณุโลก-หล่มสัก เลี้ยวซ้ายไปอีก 8 กิโลเมตร แล้วเลี้ยวขวาเข้าทางหลวงหมายเลข 11 จนถึงจังหวัดอุตรดิตถ์ อย่าลืมมาเที่ยวน้ำตกที่งดงามกันนะคะ