Posted by เกาะสีชัง เป็นสถานที่ประทับของพระเจ้าแผ่นดินถึง 3 พระองค์ คือ รัชกาลที่4 รัชกาลที่ 5 และรัชกาลที่ 6 โดยมีหลักฐานปรากฏจากพระนามาภิไธยไว้หลายแห่งและรัชกาลที่ 5 ทรงโปรดเกล้าฯ ให้สร้างพระราชฐานบนเกาะขึ้นเป็นแห่งแรกเพื่อเป็นสถานที่ประทับในฤดูร้อน และพระราชทานนามว่า พระจุฑาธุชราชฐาน ตามพระนามพระราชโอรสที่ประสูติบนเกาะสีชังแห่งนี้ วันนี้ก็เลยอยากจะพาทุกคนไปเที่ยวทะเลใกล้กรุงกันที่ เกาะสีชัง จ.ชลบุรี ทริปง่ายๆ ซึ่งทะเลที่นี่ก็สวยไม่แพ้กับทะเลที่อื่นๆ
สะพานอัษฎางค์ สะพานแห่งรัก
ปัจจุบันสะพานอัษฎางค์ เป็นสะพานท่าเรือขนาดใหญ่ สร้างด้วยไม้สักทาสี มีป้ายบอกนามสะพานทั้งภาษาไทย ภาษาจีนและภาษาอังกฤษ ถือเป็นอีกหนึ่ง Landmark ที่ทุกคนที่ไปเกาะสีชัง พลาดไม่ได้ที่จะเยี่ยมชมความงดงามและเก็บภาพบรรยากาศสวยๆ ชมพระอาทิตย์ขึ้นในยามเช้าของคู่รัก เชื่อว่าจะทำให้ความรักยืนยาว
พลาดไม่ได้กับกิจกรรมถ่ายรูป เพราะถ่ายมุมไหนก็สวยทุกมุมของโบราณสถานแห่งนี้ โดยสะพานอัษฎางค์ สะพานที่ทอดยาวไปกลางทะเล และด้วยเอกลักษณ์ทางด้านสถาปัตยกรรมที่โดดเด่น จึงเป็นจุดถ่ายรูปที่สวยที่สุดแห่งของเกาะสีชัง
สะพานอัษฎางค์ เกิดจากความรัก ความห่วงใยในพสกนิกรของพระเจ้าอยู่หัวในรัชกาลที่ 5 สะพานแห่งนี้จึงถูกขนานนามอีกชื่อหนึ่งว่า “สะพานแห่งรัก” อันเป็นสัญลักษณ์แห่งความรักของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวที่มีต่อชาวเกาะสีชังจนถึงปัจจุบัน
ช่องอิศริยภรณ์
อีกชื่อหนึ่งของชาวเกาะสีชัง คือ ช่องเขาขาด ตั้งอยู่บริเวณด้านหลังของเกาะ ลักษณะเป็นช่องเขาขาดออกจากกันเป็นหน้าผาสูง ปกคลุมด้วยทุ่งหญ้า บรรยากาศเงียบสงบในช่วงฤดูร้อนทุ่งหญ้าจะเปลี่ยนเป็นสีทองดูงดงามมาก หากนั่งเรือผ่านจะเห็นเป็นช่องเขาอย่างชัดเจน ภายในบริเวณมีสะพานสำหรับเดินชมทิวทัศน์ สามารถชมพระอาทิตย์ตกได้สวยงาม มีหาดหินกลมโดยรอบขนาดต่างๆ มากมาย ให้ความรู้สึกโรแมนติก และที่สำคัญในอดีตบริเวณนี้ยังเป็นที่ประดิษฐานของที่พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว หรือรัชกาลที่ 5 ทรงประทับชมพระอาทิตย์ตกคลื่นที่ซัดกระทบหน้าผาและทิวทัศน์ของอัษฎางคะวัน
แหลมจักรพงษ์
เป็นแหลมที่สวยงามอีกแห่งหนึ่งในบริเวณริมฝั่งทะเล ที่นี่มีโขดหินขนาดใหญ่สวยงาม ถือเป็น 1 ใน 4 ของเกาะสีชังที่สวยงาม ตั้งอยู่ช่วงกลางของเกาะสีชังทางด้านทิศตะวันตก ถนนที่ไปยังแหลมเป็นเส้นทางที่คดเคี้ยวแต่ก็ยังคงมีความสวยงาม ไฮไลท์ของที่นี่ ก็คือ สามารถมองเห็นความงามของอ่าวอัษฎางค์หรือที่เรียกว่าหาดถ้ำพังได้เป็นอย่างดี เพราะแหลมจักรพงษ์อยู่ทางด้านเหนือของอ่าวอัษฎางค์
แหลมจักรพงษ์ถือเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกที่งดงาม เหมาะแก่การตกปลา และพักผ่อน มีปลาทะเลหลากสายพันธุ์สวยงาม เหมาะแก่การมาพักผ่อน
หาดถ้ำเขาพัง
มีลักษณะเป็นอ่าวโค้ง หาดทรายขาวสวยงาม มีผู้คนนิยมมาเล่นน้ำกันเป็นจำนวนมาก เป็นสถานที่ที่มีทิวทัศน์งดงามมาก และยังเป็นสถานที่ตกปลาที่นักท่องเที่ยวนิยมไปตกปลาเป็นจำนวนมากเช่นกัน มีโขดหินแหลมหินที่งดงาม ประกอบด้วยเนินสูงต่ำทอดต่อเนื่องกันไป และเป็นจุดชมพระอาทิตย์ตกน้ำสุดขอบน้ำทะเลที่สวยงามแห่งหนึ่ง บริเวณชายหาดยังมีบริการเจ็ตสกีเรือ ห่วงยางเล่นน้ำ เรือคายัค บริการดำน้ำดูปะการัง และยังมีร้านอาหารทะเลเลิศรสไว้บริการนักท่องเที่่ยว หลายร้าน อาหารทะเลเลิศรส เช่น ปูนึ่ง ปู
นิ่มผักผงกะกรี่ หมึกย่าง และอาหารเครื่องดื่ม ตามสั่งมากมายไว้คอยบริการนักท่องเที่ยวที่มาเยือน หรือหากต้องการห้องพักบริเวณริมหาดยังมีรีสอร์ทไว้บริการนักท่องเที่ยวพักแรม ชมพระอาทิตย์ตกดินและ สัมผัสบรรยากาศทะเล อย่างใกล้ชิดตลอดช่วงเวลาที่เข้าพัก
ชาวบ้านเชื่อกันว่า ครั้งหนึ่งที่นี่เคยมีถ้ำที่พังตัวลงมาบริเวณชายหาดนั้นเองชาวบ้านจึงขนานนามกันว่าถ้ำพัง และเรียกรวมชายหาดแห่งนี้ว่าชายหาดถ้ำพัง เป็นอีกหนึ่งจุดในการชมพระอาทิตย์ตกดินที่สวยงาม และยังได้รับความนิยมจากคู่รัก ครอบครัว สร้างความโรแมนติกที่ไม่สามารถอธิบายได้หากเพียงแต่ปล่อยอารมณ์แล้วลองมาชมด้วยตัวเอง
พระจุฑาธุชราชฐาน
ที่นี่ในอดีตเคยเป็นพระราชวังฤดูร้อนในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวหลังจากเหตุการณ์ ร.ศ.112 สิ้นสุดลงก็กลายเป็นเขตพระราชฐาน และมีหน่วยงานราชการต่าง ๆ มาขอใช้พื้นที่ ปัจจุบันจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัยขอใช้พื้นที่บางส่วนเพื่อเป็นสถานีวิจัยวิทยาศาสตร์ทางทะเลและศูนย์ฝึกนิสิต และทำหน้าที่ดูแลรักษาพระจุฑาธุชราชฐานไปในคราวเดียวกัน และบางส่วนได้ปรับปรุงเป็นให้เป็นการจัดแสดงพิพิธภัณฑ์และโบราณสถาน เช่น
พระเจดีย์อุโบสถ วัดอัษฎางคนิมิตร พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ ให้สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2435 ปัจจุบันได้รับการบูรณปฏิสังขรณ์และเปิดให้เข้าชม
เรือนไม้ริมทะเล สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 ปัจจุบันได้บูรณะและใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการที่น่าสนใจในเกาะสีชัง
เรือนวัฒนา สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระราชทานนามตามพระนามสมเด็จพระนางเจ้าสว่างวัฒนา พระบรมราชเทวี ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเหตุการณ์สำคัญในเกาะสีชัง
เรือนผ่องศรี สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระราชทานนามตามพระนามของพระนางเจ้าเสาวภาผ่องศรี พระวรราชเทวี ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการพระราชประวัติ และผู้มีบทบาทกับเกาะสีชังในอดีต
เรือนอภิรมย์ สร้างขึ้นในสมัยรัชกาลที่ 5 โดยพระราชทานนามตามพระนามของพระอัครชายาเธอ พระองค์เจ้าสายสวลีภิรมย์ ใช้เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการสิ่งปลูกสร้าง ในสมัยรัชกาลที่ 5
การเดินทาง
ถ้าหากเริ่มต้นเดินทางจากกรุงเทพไปยังเกาะสีชังนั้น สามารถขึ้นรถจากสถานีขนส่งเอกมัยหรือจะขึ้นรถตู่ที่อนุเสาวรีย์ก็ได้ เพื่อมุ่งหน้าไปที่อำเภอศรีราชา จังหวัดชลบุรี โดยจะลงรถที่หน้าห้างโรบินสันศรีราชา แล้วจากนั้นจึงค่อยต่อรถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง หรือสามล้อ เพื่อทำการต่อเรือไปยังเกาะสีชัง โดยจะมีเรือโดยสารมุ่งหน้าไปยังเกาะสีชังทุกวัน ตั้งแต่เวลา 7 โมงเช้า – 2 ทุ่ม จะออกทุกๆ 1 ชั่วโมง ใช้ระยะเวลาประมาณ 45 นาที ค่าโดยสารคนละ 50 บาท และเรือโดยสารจากเกาะสีชังมายังเกาะลอยฝั่งศรีราชาจะมีเรือโดยสารบริการ ตั้งแต่เวลา 6 โมงเช้า – 6 โมงเย็น ยังไงหากใครมีเวลาว่าง หรือมีช่วงวันหยุดยาวก็เตรียมแพ็คกระเป๋า ชวนเพื่อน ชวนครอบครอบครัว หรือจะชวนคนรัก ออกเดินทางไปเที่ยวพักผ่อนหย่อนใจ ชมบรรยากาศดีๆ เล่นน้ำทะเลใสๆ กินอาหารทะเลริมทะเลอร่อยๆ กันที่เกาะสีชัง จังหวัดชลบุรีกันได้เลย ที่เที่ยวปีใหม่ที่,เที่ยวสำหรับครอบครัว