Posted by ประเทศไทยนั้นมีหลายจังหวัดที่มีสถานที่ที่ท่องเที่ยวมากมายตามแต่ละที่ของจังหวัดนั้น และแต่ละสถานที่ก็มีความสวยงามและสำคัญไม่ต่างกัน ซึ่งผู้คนส่วนใหญ่ก็มักจะไปสถานที่นั้นบางก็ สัมผัสบรรยายกาศ บางก็ไปสังสรรค์ บางก็ถ่ายรูปชมวิว
ซึ่งถ้าหากไปเยือนในสถานที่ท่องเที่ยวแห่งนั้นแล้วสิ่งที่เราทุกคนจะทำและขาดไม่ได้เลยคือการถ่ายรูปเก็บบรรยายกาศที่สวยงามของสถานที่นั้น เราจึงจะพาทุกท่านไปชมวิวทิวทัศน์ที่เรานั้นสามารถมองเห็นบรรยายกาศความร่มรื่น แม่น้ำโขงของรอบๆตัวจังหวัดได้
ถ้าหากท่านไปช่วงสิ้นปีท่านก็สามารถรับชมทะเลหมอกได้แทนซึ่งมีความสวยงามต่างกันแต่ท่านก็ยังคงมองเห็นรอบๆตัวจังหวัดได้ และยังจะพาทุกท่านไปเยือนอุทยานเทวาลัยที่มีความเป็นเอกลักษณ์และสัมผัสไปกับบรรยายกาศของตลาดท่าเสด็จหรือตลาดอินโดจีน ณ จังหวัด หนองคาย ที่ถือว่าเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งของจังหวัดแห่งนี้เลย
วัดผาตากเสื้อ
วัดผาตากเสื้อ เป็นวัดที่มีทิวทัศน์สวยงามมาก มองจากบนผาลงมามองเห็นความเป็นอยู่ของชาวไทยลาว ภายในวัดมีธรรมชาติที่สมบูรณ์สามารถเดินเลาะตามหน้าผาเพื่อชมธรรมชาติและทิวทัศน์ที่สวยงามได้ในอำเภอสังคมนั้นมีแหล่งท่องเที่ยวมากกว่าที่อื่นๆในจังหวัดหนองคาย
วัดผาตากเสื้อ เป็นวัดที่นอกจากจะเป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมแล้วยังเป็นที่จุดชมวิวที่สวยงาม เนื่องจากตั้งอยู่บนที่สูงของยอดเขาหากขึ้นไปบนผาจะเห็นว่ามีวิวที่สวยงามสามารถที่จะมองเห็นด้านล่างทั้งฝั่งไทยซึ่งเป็นอำเภอสังคมและทางฝั่งลาวที่มีแม่น้ำโขงกั้นอยู่
หากไปช่วงหน้าหนาวที่ผาแห่งนี้เป็นอีกจุดหนึ่งมีทะเลหมอกด้วย วิวจะพบกับเขาต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นสลับซับซ้อน ข้างบนจะเป็นวัดเหมาะสำหรับปฏิบัติธรรมด้วยเพราะว่าเป็นวันที่ร่มรื่นและมีความเงียบสงบ
ประวัติความเป็นมาของวัดแห่งนี้นั้น เนื่องจากมีพระรูปหนึ่งท่านเป็นลูกศิษย์ของหลวงปู่เหรียญซึ่งท่านได้ห้ามไว้ชื่อ “พระอาจารย์ สมเดช” แต่ด้วยความตั้งใจท่านได้ขึ้นไปบำเพ็ญเพียรที่นั้นจนได้ ท่านใช้บริเวณบนยอดภูเป็นหลักในการเข้าสู่ถาวะสงบทางใจ
เวลาที่ท่านนั้นจะขึ้นไปยังยอดผาท่านจึงจะต้องปีนจากด้านล่างโดยการใช้เถาวัลย์ในการช่วย หลายครั้งตอนเช้าที่ท่านบิณฑบาตแล้วท่านตกลงมาทำให้ข้าวในบาตรตกออกไป บางครั้งมีอาการปวดบ่อยครั้ง แต่ท่านไม่เคยให้โยมช่วยทุกครั้งท่านจะขึ้นไปเอง
พอระยะเวลานานเข้าได้มีโยมพยายามอาสาช่วยให้สร้างทางขึ้นแต่กระนั้นทางขึ้นจากหมู่บ้านเป็นผาสูงเลยต้องสร้างจากด้านอื่นแทนและได้ก่อสร้างมาเป็นวัดโดยท่านผู้ว่าจังหวัดในสมัยนั้นให้มีโครงการสร้างทางขึ้นด้วยรถตัดดินและได้มีการพัฒนาเป็นแหล่งท่องเที่ยว
สองข้างทางขึ้นจะเป็นโครงการปลุกป่าเฉลิมพระเกียรติด้วย ได้มีการเทลาดยางบางจุดรวมระยะทางจากถนนใหญ่เกือบ 8 กิโลเมตร ข้างในวัดนอกจากจะมีผาที่สูงเพื่อยังมีสิ่งปลูกสร้างของทางวัดที่ร่มรื่นมาก อย่างเช่นศาลาเมื่อก่อนไม่มีไฟฟ้าใช้เครื่องปั่นไฟและใช้พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหลัก
นอกจากนั้นยังมีอุโบสถที่สวยงามและทางบันไดที่สวยด้านบนสามารถรับชมวิวได้ด้วยนอกจากนั้นได้มีการสร้างเจดีย์เพื่อบรรจุอัฐิธาตุของอริยสงฆ์ เช่น หลวงปู่มั่นไว้ด้วย
สกายวอล์ค สร้างอยู่ริมหน้าผามีลักษณะเป็นทางเดินกระจกใสรูปวงกลมสำหรับชมวิว สามารถมองเห็นแม่น้ำโขงกั้นอยู่เบื้องล่างกั้นระหว่างประเทศไทยและลาว เป็นพื้นกระจกที่ยื่นออกมาจากหน้าผา ให้นักท่องเที่ยวได้เดินออกไปสัมผัสกับบรรยากาศบนกระจกใสแบบตื่นเต้น โดยเฉพาะในเวลาเช้าอาจมีโอกาสได้เห็นสายหมอกลอยคลอเคลียอยู่เหนือน้ำโขง
ศาลาแก้วกู่
ศาลาแก้วกู่, อุทยานเทวาลัย หรือ วัดแขก เป็นอุทยานของสำนักปฏิบัติธรรมแก้วกู่ และสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญในชุมชนสามัคคีประดิษฐานรูปปั้นคอนกรีตเสริมเหล็กขนาดใหญ่จำนวนรวมกว่า 200 องค์
รูปปั้นนั้นประกอบไปด้วยเนื้อหาเรื่องราวเกี่ยวกับพุทธประวัติ ตั้งแต่ประสูติ ตรัสรู้ ปรินิพพาน รวมถึงเรื่องราวต่างๆ ตามตำนานความเชื่อ พระพุทธรูป พระรูปของพระโพธิสัตว์ เทพเจ้าฮินดู บุคคลในคริสต์ศาสนา ความเชื่อพื้นบ้าน และตัวละครจากรามเกียรติ์ อุทยานแห่งนี้ถูกสร้างขึ้นโดยปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ ภายใต้แนวคิดว่า “ทุกศาสนาสามารถอยู่รวมกันได้”และให้เป็น”สถานที่แทนภาพดินแดนแห่งการหลุดพ้นจากกิเลสทั้งปวง” ในปี พ.ศ. 2521
ภายในอุทยานที่บริเวณฐานของพระรูปแต่ละองค์จะมีจารึกอธิบายชิ้นงานและแนวคิด คติเตือนใจ เป็นภาษาอีสาน และภาษาไทย รุปปั้นที่สูงที่สุดมีความสูงราว 25 เมตร
โดยค่าเข้าชมอุทยานคนไทยเสียค่าเข้าชมเด็ก 10บาท ผู้ใหญ่ 20บาท ชาวต่างชาติ 40บาท เมื่อเข้าไปข้างในเหมือนหลุดเข้าไปอยู่ในดินแดนเทพศักดิ์สิทธิ์เพราะเต็มไปด้วยโดยเทวาลัยต่างๆด้วยศิลปะปูนปั้นที่ให้ความรู้สึกตรึงใจ ทั้งน่าเกรงขามและน่าเคารพอย่างสะพรึงกลัวมีพลังทุกจุดเหมือนชีวิตและความรู้สึก
นอกจากนี้ยังมีอาคารสำนักพุทธศาสนาแก้วกู่ความสูงสามชั้นสถาปัตยกรรมเลียนแบบมัสยิดบนหน้าบันของอาคารจารึกสัญลักษณ์โอมและอักษรไทย
ศาลาแก้วกู่ ชั้นบนสุดเป็นที่ตั้งร่างของปู่บุญเหลือ สุรีรัตน์ที่บรรจุในผอบและไม่เน่าเปื่อยทำให้สร้างความอัศจรรย์แก่ผู้ที่ศรัทธาในตัวท่านเป็นอย่างมาก
เป็นสถานที่ที่ยิ่งใหญ่อลังการของรูปปั้นเทวาลัยซึ่งเกิดจากแรงศรัทธาความเชื่อในบาป บุณ คุณ โทษ ในคำสอนของศาสนาต่างๆจนกลายมาเป็นพิพิธภัณฑ์งานประติมากรรมปูนปั้นกลางแจ้งจำนวนมากที่หาชมที่ไหนไม่ได้ในประเทศไทย ชมวิวสวยๆกับน้ำตกธรรมชาติ